วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

โรคงอน

"โรคงอน" เป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง ติดต่ออย่างรวดเร็วขยายตัวเป็นวงกว้างในแนวราบ ยังไม่พบวัคซีนหรือยารักษา ผู้ป่วยมีอาการ “หน้างอ” และบางรายที่อาหารหนักจะมีอาการหน้าดำ แทรกซ้อนด้วย หูแข็ง ฟังอะไร ขัดหูขัดใจไปหมด ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยพองาม (... จริงอ่ะ)ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน ว่าผู้ใดนำเชื้อมาปล่อย โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก จะทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้
สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก ผู้ง้อ ควรได้รับการฝึกสอนและเป็นผู้ชำนาญการง้อเป็นพิเศษ เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย ต้องการความเอาใจใส่
หลังได้รับการรักษาผู้ป่วยที่หายแล้ว ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจ หากความรักและความเข้าใจลดน้อยลงเมื่อไหร่ อาการงอนจะกำเริบ
หมายเหตุ พบมากในกลุ่มคนที่มีความสวย และความน่ารัก สำหรับผู้ไม่สวยและไม่น่ารัก จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ น่ารำคาญ จะปล่อยไปตามยถากรรม ( กำ เจง ๆ )ไม่มีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าอาการจะหายหรือตายไปเอง.....

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

รักกับหลงต่างกันอย่างไร

ความรัก ค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ความหลง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความรัก อดทนต่อกันและกันเสมอ ความหลง กระทำไปตามอารมณ์
ความรัก ทำสิ่งดีๆให้กัน ความหลง ทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง
ความรัก ไม่คิดถึงตัวเองฝ่ายเดียว ความหลง คิดถึงแต่ตัวเอง เรียกร้องแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ
ความรัก ชื่นชมสิ่งดี ไม่ยอมรับสิ่งผิด ความหลง หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แก้ตัว
ความรัก ปกป้องกันและกัน ความหลง ปกป้องตัวเอง ไม่แคร์ว่าใครจะเจ็บ
ความรัก ไว้ใจซึ่งกันและกัน ความหลง หวาดระแวง จับผิด ขี้สงสัย
ความรัก ให้อภัย ความหลง แค้นนี้ต้องชำระ
ความรัก ทนต่อทุกอย่าง ความหลง ถอยหนียามลำบาก
ความรัก ให้โดยไม่มีการเลิกรา ความหลง หยุดเมื่อไม่ได้รับการปรนเปรอ
ความรัก เป็นอมตะ คงทนถาวร ความหลง ไม่มั่นคง อยู่ได้ไม่นาน
ความรัก ซื่อสัตย์ต่อกัน ความหลง หลอกลวง เชื่อถือไม่ได้
ความรัก ไม่ฉุนเฉียวง่าย ความหลง ด่าว่าให้เจ็บช้ำ
ความรัก ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ความหลง ไม่ให้เกียรติ ฉันต้องสำคัญที่สุด เป็นรองไม่ได้
ความรัก มีความหวังอยู่เสมอ ความหลง คุณพลาดแล้วหมดโอกาสแก้ตัว
ความรักจะช่วยส่งเสริมคนทั้งคู่ให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเช่น การเรียนดี ประพฤติดี ความหลงไม่สนใจอะไร มุ่งแต่จะอยู่ด้วยกัน สุดท้ายก็ลงเอยเรื่อง sex
ความรักจะเตือนสติถ้าอีกฝ่ายทำสิ่งไม่สมควร และมีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ความหลงไม่มีการเตือนสติกัน แต่จะมองสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูก เช่นแฟนกินเหล้า สูบบุหรี่ เสพยา หนีเรียนก็ไม่ว่าเพราะหลงจนไม่อยากขัดใจ
ความรักจะทำดีต่อกัน รักกันเสมอต้นเสมอปลาย ความหลงแรก ๆ รักจนไปลืมหูลืมตา ต่อมาอีกไม่นานก็เริ่มหน่ายตีตัวออกห่างไปหาคนอื่นต่อ

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เรื่องขำๆ

เรื่องที่ 1 "ทัพพีที่หายไป"
เมื่อวินัยเชิญแม่ของเขามากินมื้อค่ำที่อพาร์ทเมนท์ ซึ่งเขาอยู่กับสาวสวยชื่อนิสา คุณแม่จึงอดเคลือบแคลงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ ระหว่างร่วมโต๊ะมื้อเย็นนั้นเอง คุณแม่ของวินัยเฝ้าสังเกตสายตาที่ทั้งคู่มองสบกัน จนลูกชายชักเดาใจออก จึงรีบพูดขึ้นว่า “ผมรู้นะว่าแม่กำลังคิดอะไร .. แต่ผมยืนยันได้แน่ว่า ผมกับนิสาเป็นแค่รูมเมทเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆ” หลังจากแม่ของวินัยกลับไปได้ 1 อาทิตย์ นิสาจึงบอกวินัยว่า “ตั้งแต่แม่ของคุณมาเยี่ยมเราคราวนั้น ฉันก็หาทัพพีคันโปรดไม่เจอเลย ที่จริง..ฉันก็ไม่คิดว่าแม่ของคุณจะเอาไปหรอกนะคะ หรือคุณว่ายังไง” วินัยจึงตอบว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะลองเขียนจดหมายไปถามคุณแม่ดู” วินัยจึงนั่งลงเขียนจดหมาย เนื้อความว่า.. “เรียน คุณแม่สุดที่รัก.. ผมไม่ได้คิดว่าคุณแม่จะเผลอเอาทัพพีที่บ้านผมไปหรอกนะครับ แต่จะว่าแม่ไม่ได้เอาไป..... ก็ยังไงอยู่ เพราะทัพพีสวย ๆ คันหนึ่งหายไปตั้งแต่วันที่คุณแม่มาทานข้าวเย็นที่บ้าน ขอแสดงความนับถือ วินัย” หลายวันต่อมา วินัยได้รับจดหมายตอบจากแม่ของเขา เนื้อความว่า.. “ถึง ลูกชายสุดที่รักของแม่ แม่ไม่เคยพูดว่าลูกมีอะไรกับนิสา แต่แม่ก็ไม่ได้คิดว่าลูกจะไม่มีอะไรกับเธอ เพราะความจริงมีอยู่ว่า ถ้านิสานอนที่ห้องตัวเอง ก็คงเจอทัพพีนั่นไปตั้งนานแล้ว รักมาก แม่”

เรื่องที่ 2 "ตอนเป็นแฟนกัน อะไรๆมันก็ดีอย่างนี้"
ชายหนุ่ม : บ้านคุณอยู่ไกล ซอยเปลี่ยว อันตราย ให้ผมไปส่งดีกว่า หญิงสาว : ซอยมันแคบกลับรถลำบากนะค่ะ ชายหนุ่ม : ไม่เป็นไรครับ ผมถอยหลังผ่านตลอดออกได้ เมื่อแต่งงานกันผ่านไป 5 ปี.... อะไรอย่างนี้ก็เกิดขึ้น ภรรยา : พี่ ๆ กลับเถอะดึกมากแล้ว สามี : จะคุยกับเพื่อน กลับไปก่อนซิ ภรรยา : ซอยมันเปลี่ยว อันตรายน่ะพี่ สามี : กลับประจำ ไม่มีอะไรหรอก ภรรยา : ชั้นกลัวถูกข่มขืน สามี : ไม่หรอกน่า ... เดี๊ยวนี้ โจรมันฉลาด... มันรู้จักเลือก

เรื่องที่ 3 "วิธีประหยัด"
เรื่องของคุณลุงคนนึง แกทำงานอยู่ กทม. ใกล้จะเกษียณแล้วล่ะ วันหนึ่งก็มารอรถเมล์จะกลับบ้าน รออยู่คันแล้วคันเล่ารถก็ดูเต็มทุกคัน แกรออยู่ตั้งนาน เวลาก็ค่ำลงๆ ก็มีอยู่คันหนึ่ง ทำท่าว่าจะจอดรับ แต่ก็ไม่จอด แต่ลุงแกนึกว่าจะจอดก็ค่อยๆ วิ่งไล่ตามแกวิ่งไล่ตามไปเรื่อยๆ เผลอไปสักพักใหญ่ ....เฮ้ย .....ถึงบ้านแล้วนี่หว่า แกดีใจ เออดี .....ไม่ต้องเสียค่ารถเมล์สามบาท แกดีใจ ใหญ่เลย กลับไปเล่าให้เมียฟัง ลุง : นี่เธอจ๋า .. วันนี้พี่วิ่งไล่ตามรถเมล์มานะ ถึงบ้านพอดี ตังค์ก็ไม่ต้องเสียตั้งสามบาทล่ะ เมีย : (พอได้ยินแทนที่จะดีใจไปด้วยกลับด่าส่ง)...ไอ้แก่จะตายแล้วยังจะโง่อีก ลุง : อ้าวมาด่าชั้นทำไมล่ะ เมีย : นี่ถ้าแกวิ่งตามแท็กซี่ แกรู้มั้ย ประหยัดได้อีกตั้งเท่าไหร่

เรื่องที่ 4 "ทางแก้ปัญหา"
สามี: เธอพกรูปฉันไว้ในกระเป๋าเสมอ ทำไมหรอ ภรรยา: อ๋อ ก็ถ้ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน ฉันก็จะดูรูปเธอ แล้วปัญหาก็หายไปเลย สามี: เห็นมั้ย ว่าฉันเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเธอขนาดไหน ภรรยา: ใช่ ฉันมองภาพเธอแล้วก็พูดกับตัวเองว่า “ปัญหาอะไรจะมาหนักหนากว่านี้อีกนะ”
เรื่องที่ 5 "บ่ออธิษฐาน"
หนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินมาถึงบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนมาอธิษฐานขอพร ฝ่ายชายเริ่มโน้มตัวไปข้างหน้า ตั้งจิตอธิษฐานและโยนเหรียญลงไป ฝ่ายภรรยาอยากอธิษฐานเช่นกันแต่เธอโน้มตัวไปมากเกินจนเสียศูนย์ ตกลงไปในบ่อ แล้วจมน้ำตาย สามีพูดขึ้นเบาๆว่า “ว้าว ได้ผลจริงๆด้วย”

เรื่องที่ 6 "เสียสละที่นั่งให้หญิง"
ลูกชาย: แม่ครับ ตอนที่อยู่กับพ่อบนรถเมล์เมื่อเช้านี้ พ่อบอกให้ผมสละที่นั่งให้ผู้หญิงสาวคนหนึ่งครับ แม่: ดีจ้ะลูก ลูกทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ลูกชาย: แต่แม่ครับ ผมนั่งอยู่บนตักพ่อนะ

เรื่องที่ 7 "ประสบการณ์เฉียดตาย"
หญิงวัยกลางคนเกิดอาการหัวใจวายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ระหว่างที่อยู่บนเตียงผ่าตัด เธอพบกับประสบการณ์เฉียดตาย ซึ่งในระหว่างนี้เธอเห็นพระเจ้าและถามพระองค์ว่าวาระสุดท้ายของเธอมาถึงแล้วใช่ไหม พระเจ้าตอบว่ายัง เธอต้องอยู่ต่อไปอีกสามสิบปี หลังจากฟื้นคืนสติ เธอตัดสินใจอยู่ต่อที่โรงพยาบาลต่อเพื่อผ่าตัดดึงหน้า ทำปากให้อิ่มเอิบ เสริมหน้าอกและอื่นๆอีกสารพัด เธอยังให้ช่างเข้ามาเปลี่ยนสีผมให้อีกด้วย เธอทำเช่นนี้เพราะเห็นว่าในเมื่อจะต้องมีชีวิตอยู่อีก 30 ปี ต้องใช้เวลาทั้งหมดนี้อย่างมีความสุขที่สุด หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเสริมสวย เธอเดินออกจากโรงพยาบาล แต่โชคร้ายกลับถูกรถพยาบาลชนตาย เมื่อมาพบหน้าพระเจ้าอีกครั้ง เธอบ่นว่า “ฉันได้ยินว่าพระองค์บอกเองว่าฉันต้องมีชีวิตอยู่อีก 30 ปี” พระเจ้าตอบว่า “โทษที เราจำเจ้าไม่ได้!”

เรื่องสุดท้าย
"สามีนอนดูอเมริกันฟุตบอลอยู่ ภรรยาเข้ามาขอร้อง "ซ่อมไฟทางเดินให้หน่อยสิ มันเสียมาหลายวันแล้ว" "ซ่อมไฟเหรอ" สามีโมโห "ฉันไม่ได้ทำงานเจเนรัลอิเลคทริคนะ ดูที่หน้าผากซิมี จีอี. สลักไว้หรือเปล่า" "งั้นซ่อมประตูตู้เย็นให้หน่อยนะ" ภรรยาขอต่อ "ซ่อมตู้เย็น ? " สามีฉุน "ไม่ได้ทำงานเวิล์ดพูลนะ ดูหน้าผากฉันซิมีอักษรสลักไว้หรือเปล่า" "ค่ะ อย่างน้อยช่วยดูบันไดให้หน่อยได้ไหม รู้สึกมันจะพังแล้วนะ "ซ่อมบันได" สามีโมโหสุดขีด "ฉันไม่ใช่พนักงานรับซ่อมบ้านนะ ดูซิมีเครื่องหมายพนักงานอยู่ตรงไหน" สามีปึงปังออกจากบ้านไป เขาไปดื่มเหล้าดับอารมณ์อยู่สักพักก็รู้สึกตัวว่าเขาพูดจารุนแรงไป เขาตัดสินใจกลับบ้านมาซ่อมของใช้ให้ภรรยา เมื่อกลับเข้าบ้าน เขาเห็นไฟทางเดินส่องสว่างดี ประตูตู้เย็นก็ซ่อมเป็นปกติ บันไดก็ซ่อมเสร็จ เขาจึงถามภรรยา "ที่รัก นี่เธอซ่อมมันยังไง" "อ๋อ พอคุณออกจากบ้านไป ฉันก็นั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้าน มีผู้ชายคนหนึ่งผ่านมาถาม ฉันเลยเล่าให้ฟัง เขาอาสาว่าจะซ่อมให้ โดยขอนอนกับฉันครั้งหนึ่ง หรือไม่ก็ทำคุกกี้ให้เขา" "เหรอ แล้วเธอทำคุกกี้อะไรให้เขาล่ะ" สามีถาม "นี่คุณ" ภรรยาขึ้นเสียง "ดูหน้าผากฉันซิ มีอักษร S & P หรือเปล่า"

http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/General/Pakinaka/31.htm

ลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ

ลดน้ำหนักแบบธรรมชาติถ้าสมมติฐานที่ว่าความอ้วนและสุขภาพที่เสื่อมโทรมมาจากการใช้ชีวิตแบบฝืนธรรมชาติ ระหว่างที่คุณพยายามจัดระเบียบและปรับชีวิตทั้ง 3 ส่วนให้กลับสู่ความสมดุลตามธรรมชาติ ทำไมไม่ลองลดความอ้วนด้วยวิธี "ธรรมชาติบำบัด" ไปพร้อมๆ กันล่ะคะ!
นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล แห่งศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี กล่าวไว้ข้อหนึ่งว่า วิธีลดความอ้วนด้วยธรรมชาติบำบัด ที่สำคัญคือ ต้องออกกำลังกาย และ ควบคุมอาหาร ก่อนจะแนะนำสูตรควบคุมอาหาร ซึ่งมีให้เลือกปฏิบัติตามแต่ความถนัดของแต่ละคน
1. ไม่กิน(ข้าว) มื้อเย็น วิธีนี้เหมาะจะเป็นบันไดขั้นแรกสู่สูตรต่อๆ ไป โดยในมื้อเช้าและกลางวันสามารถกินได้ตามปกติ เฉพาะมื้อเย็นเท่านั้นที่กินอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ข้าว อาจจะหาจานเปล่ามา 1 ใบ ใส่ผักสดให้เต็มจาน แล้วกินกับกับข้าวไทยๆ อาทิ น้ำพริกปลาทู แกงส้ม แกงเลียง ยำ ลาบ งดกับข้าวมันๆ เช่นผัดผักมันๆ ของทอด และแกงกะทิ
2. อดอาทิตย์ละวัน เลือก 1 วันในสัปดาห์สำหรับงดเนื้อสัตว์ ไขมัน ข้าว แล้วกินแต่ผลไม้อย่างเดียวทั้งวัน เช่น มะละกอสุก
3. อดด้วยน้ำผลไม้ 3 วัน วิธีการคล้ายกับสูตรที่ 2 เพียงแต่เปลี่ยนจากการกินเนื้อผลไม้มาเป็นการดื่มน้ำผลไม้วันละชนิด ติดต่อกัน 3 วัน
4. อดเพื่อสุขภาพ 10 วัน เริ่มจาก 2 วันแรกกินแต่ผลไม้ ต่อจากนั้นกินผักและผลไม้สดชนิดต่างๆ จนครบ 10 วัน ซึ่งใน 10 วันนี้ถ้าทำอย่างเข้มงวด น้ำหนักจะหายไปประมาณ 3-4 กิโลกรัม
5. กินเนื้อกับผัก สูตรนี้เข้าข่ายการกินแบบ "พร่องแป้ง" หรือ "โลว์-คาร์บ(Low-Carb)" คือกินได้ทุกอย่าง โดยแตะคาร์โบไฮเดรตซึ่งรวมทั้งแป้ง ข้าว และผลไม้ให้น้อยที่สุด โดยกินผักปริมาณ 2 เท่าของเนื้อ
แม้ว่าการที่ร่างกายไม่ได้รับพลังงานหลักจากคาร์โบไฮเดรตตามปกติ จะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพเดียวกับภาวะอดอาหาร จนต้องไปดึงพลังงานส่วนเกินที่เก็บสำรองไว้มาใช้ก็จริง แต่ส่วนหนึ่งของพลังงานสำรองอาจเป็นโปรตีนจากกล้ามเนื้อ การกินเนื้อกับผักนานๆ จึงอาจส่งผลให้คุณผอมแบบกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย จึงจำเป็นต้องรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ด้วยการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้หากบริหารความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน อย่างการยกเวทไปพร้อมกันด้วย ก็จะช่วยเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อให้สวยงามและดูดียิ่งขึ้นด้วย
หากคุณมีความพยายามจริงจัง จะใช้ทั้ง 5 วิธีผสมผสานกันก็ได้ แต่ควรคำนึงว่าผักและผลไม้ที่จะกินควรมีความใหม่สดและผ่านการล้างอย่างสะอาดดีแล้ว ส่วนจะกินแบบนี้อยู่นานแค่ไหนก็ให้ติดตามจากผลของน้ำหนักตัวว่าได้ตามที่ต้องการแล้วหรือยัง เมื่อพอใจแล้วก็ค่อยๆ ปรับเพิ่มแป้งทีละนิด อย่างไรก็ตามแม้จะกลับมากินเหมือนเดิมแล้ว ก็ยังควรดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสกัดไม่ให้ไขมันกลับมาพอกพูนใหม่ได้ง่ายๆ อีก
สำหรับสัดส่วนของอาหารปกติหลังจากเข้าโปรแกรมกินเนื้อ-กินผักแล้วนั้น ควรเป็นการกินตามแนวธรรมชาติบำบัดคือ แต่ละวันกินข้าวกล้อง 3 มื้อ ผักสด 2 จาน ผลไม้ 2 ผล(ขนาดเท่ากับผลแอ็ปเปิ้ล) น้ำผลไม้คั้นสด 1 แก้ว กินเนื้อสัตว์วันละไม่เกิน 1 ฝ่ามือ อาหารไขมัน(จำพวกผัดและทอด) วันละไม่เกิน 2 อย่าง พร้อมๆ กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม มีรูปร่างที่สมส่วน และสุขภาพโดยรวมที่แข็งแรงมากขึ้น
เห็นไหมว่าการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติบำบัดทำไม่ยาก ไม่ต้องอดจนหิวไส้กิ่ว ไม่ต้องใช้เงิน ยา หรืออาหารเสริมลดความอ้วนเลย แค่ปฏิบัติตามสูตรเพื่อรูปร่างแข็งแรงและสุขภาพที่ดีขึ้น มีข้อดีมากมายอย่างนี้จะไม่ทดลองลดกันดูบ้างหรือคะ? อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือ คู่มือล้างพิษ 1 วัน, อดด้วยน้ำผลไม้, ล้างพิษ 10 วัน และกินเนื้อกินผัก รักษาเบาหวานแบบไม่ต้องอด ทั้งหมดโดยสำนักพิมพ์รวมทรรศน์ และ
http://www.yehyeh.com/webboard/question_detail.php?question_id=9175

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

75ข้อความบอกรัก

1.เธอไม่ต้องใช้กบเหลาดินสอหรอกนะ.............เพราะคำพูดและหน้าตาของเธอแหลม พอที่จะแทงใจฉันให้อ่อนได้
2.อยากมีพาวเวอร์พอยต์ ............จะได้พรีเซ้นความรักของฉันที่มีต่อเธอได้
3.ตายแล้ว!!! เธอรู้ไหม? เธอทำให้ขยะล้นโลกนะ...............เพราะหัวใจใช้แล้ว ของฉันที่เธอไม่ต้องการมันแล้วไม่สามารถรีไซเคิลได้
4.เธอไม่ต้องแปลกใจหรอกนะที่หาชื่อตัวเองในพจนานุกรมไม่เจอ...........เพราะมันอยู่ในใจฉัน
5.ว่ากันว่าถอดสแควรูดน่ะมันถอดยากนะ........แต่ฉันว่าถอดเธอออกจากใจฉันมันยากยิ่งกว่าเสียอีก
6.เฮ้อ...เรามีแต่พาสเวิร์ดเข้าสู่อินเตอร์เน็ต......แต่ไม่มีเมซเซสเข้าสู่หัวใจเธอเลย
7.พรมแดนที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะพรมแดนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ก็ไม่มีพรมแดนไหนมาคั่นหัวใจเราสองให้ห่างไกลกันได้หรอก
8.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้ โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัว เธอมาเป็นแฟนฉัน ถ้าออกก้อย ฉันจะยอมเป็นแฟนเธอ
9.อยากเอาชีวิตฉันหรอ?.......ยิงเลยสิ....ยิงมาที่กลางหัวใจเลย...แต่เธอจะเจ็บหน่อยนะ เพราะในนั้นน่ะ...............มีเธออยู่
10.ขอยืมลายมือสวยๆหน่อยได้ไหม....จะเอาจดทะเบียนสมรส
11.เอามีดมาแทงเลยสิ แทงตรงหัวใจเลยนะ ฉันไม่เจ็บหรอก แต่เธอน่ะแหละที่จะเจ็บ.............เพราะเธออยู่ในใจเธอไง
12.ใช่สิ ฉันมันคนไร้หัวใจ...ก็เธอเอาหัวใจฉันไปหมดแล้วนี่
13.ถ้าฉันมีปืน 2 อัน ฉันจะแบ่งให้เธอหนึ่งอัน.........เราจะได้มี GUN และ GUN ไง
15. ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะเป็นค ว า ย............จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป...
16.เดินดีๆ นะน้อง.......ระวังจะสะดุดรักพี่ล่ะ
17.ฉัน : นี่ๆรู้ไหม เวลาเห็นหน้าคุณทีไร มักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอ้ะ? เธอ : ?? โรคชักไรหรอคะ? ฉัน : โรคชักจะใจอ่อน
18. ฉันน่ะไม่ติงต๊องหรอก แต่ ThinkinG OF YoU
19. ฉัน : เมื่อวานนะเสียเวลาตั้งนาน เธอ : ทำไมเหรอ? ฉัน : หลงทางในหัวใจเธอ
20. ขอปรึกษาปัญหาหากฎหมายหน่อยได้ไหม........ข้อหาลักลอบแอบชอบผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมายมาตราไหนครับ?
21. อยากเป็นแก้วน้ำ....เธอจะได้รินใจใส่ไว้
22.ถึงแม้อับบลาฮัมลินคอล์นจะเลิกทาสไปแล้ว........แต่ทำไมหัวใจฉันยังตกเป็นทาสของเธออยู่เลย
23.ท่าทางเธอจะมีโชคนะ ฉันเป็นหมอดู.... ดูดวงจากหมายเลขโทรศัพท์..............ไหนบอกเบอร์มาสิ..ฉันจะทายให้ ((ขอเบอร์แบบเสี่ยวๆ))
24.ผมจะต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายล่ะครับ............เพราะความรักของคุณ..มันทำให้ผมตาบอดซะแล้ว
25.นี่เรารักเธอ...เธอโกรธเปล่า? กรณี1ไม่โกรธ งั้นเป็นแฟนกัน กรณี2 โกรธ งั้นก็รักเราคืนซะสิ
26." นี่ๆ ขอคำดิ!!!! " " คำว่า "รัก" น่ะ " ((เอาไว้เล่นตอนกินข้าว))
27.ฉัน : เปิดบัญชีรึยัง? เธอ : เปิดแล้ว ฉัน : เหรอ..งั้นจะได้เอาใจไปฝาก
28.ฉัน : เธอมีญาติเป็นสไปเดอร์แมนรึป่าว? เธอ : ไม่มี... ฉัน : มิน่าไม่มีเยื่อใยให้บ้างเลย
29.จะเรอให้คุณฟัง.....เรอทัก--รักเทอ
30.เวลาคุยโทรศัพท์กัน เรา:ตัวเองถือหูโทรศัพท์ข้างไหนอยู่อ่ะ เค้า: ข้างซ้าย/ข้างขวา เรา:เค้ารักตัวเองนะ ตัวเองเปลี่ยนข้างถือได้ป่ะ? (เปี่ยนข้างแล้ว) เรา:ตัวเองถือหูโทรศัพท์ข้างไหนอ่ะ? เค้า:ข้างซ้าย/ข้างขวา เรา:เค้าเกลียดตัวเองแล้วอ่ะ เค้า:ทำไมอ่ะ? เรา:ก้อเค้ารักตัวเองข้างเดียวอ่ะ
31.เวลานั่งอยู่ เรา:ตัวเองๆ..เปลี่ยนที่นั่งได้ป่ะ? เค้า:อ้าว...แล้วให้เราไปนั่งไหนอ่ะ? เรา:มานั่งในใจเราไง...
32.เรา:เธอๆผมเรายาวยังอ่ะ? 1.เค้า:ยังไม่ยาวเลยอ่ะ... เรา:ยังยาวไม่พอจะมัดใจเธอเลยเหรอ 2.เค้า:ก้อยาวแล้วนิ เรา:ยาวพอจะมัดใจเทอได้ยังอ่ะ?
33.เวลาคุยโทรศัพท์กัน เค้า:อยู่ที่ไหนอ่ะ? เรา:อยู่ในใจเธอ เค้า:ทำอะไรอยู่อ่ะ? เรา:ทำใจไม่ให้รักเธอ
34.ฉัน : นี่เธอที่บ้านไม่มีเก้าxxx้ให้นั่งหรอ? เธอ : ทำไมคะ ??? ฉัน : ก็เธอชอบมานั่งในใจเรา
35.อยากเป็นกาแฟกระป๋อง..............จะได้เป็นหนี่งในใจคุณ
36.ถ้าฉันมีรองเท้าจะแบ่งให้เธอข้างหนึ่ง............เราจะได้อยู่คู่กันตลอดไปไง
37.ฉัน : แถวนั้นอันตรายครับระวังลื่นนะครับ... เธอ : ทำไมหล่ะคะ? ฉัน : ก้อหัวใจผม...ละลายอยู่แถวๆนั้นอ่ะครับ
38.โอ๊ย!!...อย่ากำแรง.............ยังไงเราก็ยอมเป็นลูกไก่ให้เธออยู่แล้วน่า
39.ช่วงนี้กำลังเบลอๆนะ...........เบลอว่ารักแถบ--แบบว่ารักเทอ
40. เรา : ที่บ้านมีน้ำมันมั้ยอ้ะ? เค้า : มีอ้ะ...ทำไม? เรา :จะได้เอามาทอดสะพานรักของเรา
41.เธอ : อากาศเย็นออกทำไมไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวเหรอไง? เรา : ไม่หนาวหรอก...เพราะอยู่ใกล้เธอแล้วอุ่นใจ ((ไว้เล่นตอนหน้าหนาว))
42. เรา : ตัวเองแถวบ้านมีถ่านขายป่ะ? เธอ : มีดิ เรา : ฝากซื้อหน่อยได้ป่ะ? เธอ : จาเอาไปทำอะไรอ่ะ? เรา : เอามาเติมรักให้เต็ม
43.ฉัน: นี่เธอๆช่วยหันหน้ามาให้ฉันเห็นทั้ง 2 ข้างหน่อยซิ เธอ : ทำไมล่ะ? ฉัน : ก้อฉันไม่อยากหลงรักเธอข้างเดียวไง
44.ฉัน : โอ้ย..อยากเป็นเส้นเลือดใหญ่จังเลยอะ... เธอ : ทำไมล่ะ? ฉัน : ก็จะได้ใกล้หัวใจเธอไงละจ๊ะ
45.พบเธอทีไรก็เจอทุกทีเลย..............เจอละไม---ใจละเมอ
46.เรา:เธอๆมีเหรียญบาทป่ะ? เค้า:เอาไปทำไมหรอ? เรา:เอาไปโทรบอกแม่ว่าเราเจอเนื้อคู่แล้ว
47.เรา : เดี๋ยวพี่ซื้อนาฬิกาให้เอามั้ย? เค้า: จะให้หนูใส่ไปทำไมคะ? ตั้ง2เรือน..? เรา: ก็เราจะได้ไม่ลืมวันเวลาที่เราอยู่ด้วยกันไงล่ะจ๊ะ...
48.เดินๆอยู่ เรา : อ๊ะ ผึ้ง !!! ( พลางชี้นิ้วไปข้างหัวใจเค้า) เธอ : ??? เรา : เพิ่งจะรุ้ว่ารัก
49.เรา: เห็นคุณเเล้วอยากจะซื้อบริษัทการบินไทยให้จังเลย เค้า : ทำไมอ่ะ? เรา : ก้อมัน"รักคุณเท่าฟ้า"อ่ะ
50.ฉันเป็นโรคไตระยะสุดท้าย...........ไตหาหัวจาม--ตามหาหัวใจ
51.พระเยซูรักทุกคน................แต่ฉันไม่ใช่พระเยซูฉันจึงรักเธอคนเดียว
52.ใช่ฉันมันคนหลายใจ..................แต่รู้ไหมทุกใจมีแต่เธอคนเดียว
53.โอ๊ย!!เจ็บคออ่ะ....................ก็ความรักมันค้ำคอ
54.โอ๊ย!!เราเดินตกหลุมอ่ะ...........ตกหลุมรัก
55. เธอน่าขึงจังเลย..........ขึงทิด--คิดถึง
56.เค้า :นี่ๆ...เดี๋ยวคาบต่อไปเรียนชั้นไหนหรอ?? เรา : ชั้นรักเธอหล่ะ ((ใช้ตอนอยุ่ห้องเดียวกันระหว่างเปลี่ยนคาบ))
57.เรา : หน้าอย่างคุณน่าจะเป็นเด็กช่างนะ เค้า : ??? เรา : ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้
58.เรา : เธอมีเข็มกะด้ายไหม? เค้า : เอาไปทำอะไรหรอ? เรา : เอามาเย็บใจน่ะสิ เห็นหน้าเธอ แล้วใจจะขาด
59.เรา : ของเราหายอ่ะ ไม่รู้ว่าลืมไว้ที่เธอป่าว? เค้า : ลืมไรไว้อ่ะ? เดี๋ยวช่วยหา... เรา : หัวใจเราไง
60.เรา : ดูท้องฟ้าสิเล็กจัง... เค้า : ทำไมหรอ? เรา : เขียนคำว่า รักเธอ ยังไม่พอเลยอ่ะ
61.เรา : ทำยังไงดีเราลืม? เค้า : ลืมอะไรหรอ? เรา : เราลืมเธอไม่ได้
62.เรา : หิวจัง เธอ : ก็ไปหาอะไรกินสิ เรา : กะว่าจะสั่ง.... เธอ : ?? เรา : สั่งพิซซ่า หน้าความรัก สลัดผัก ความคิดถึง เฟรนชฟราย ความคำนึง คิดถึง&ห่วงใย
63.เรา : นี่รู้ป่ะ? เธอเป็นคนโลภมาก เค้า : เอ้า...เราโลภตรงไหน? เราทำไรผิดเนี๊ยะ? เรา : ก็เธอเล่นเอาหัวใจเราไปทั้ง 4 ห้องเลย
64. เรา : นี่ๆช่วยอะไรหน่อยได้มะ? เค้า : อ่า...ทำไรคะ? เรา : ช่วยเดินไปตรงกระจกแล้วบอกคนนั้นว่าเราคิดถึง
65. เรา : เหนื่อยมั้ยที่มาเดินเล่นในใจผม? เค้า : แหวะ...น้ำเน่า เรา : ถึงน้ำเน่าแต่ยังเห็นเงาจันทร์นะ... เค้า : โอ..เสี่ยวมาก เรา : เสี่ยวนักเพราะรักเธอ เค้า : นี่เธอเบลอป่าวเนี่ย? เรา : เบลอว่ารักแถบ-แบบว่ารักเธอ เค้า : กรรม กรรม กรรม กรรม ((รวมมิตร))
66.เรา: รู้เปล่าว่าเที่ยวทะเลตอนไหนสวยที่สุด? เค้า : ตอนไหน เรา:ก็ตอนที่มีเธออยู่ด้วยไง
67.เรา : นี่ๆหันไปทางซ้ายหน่อยสิ เค้า : ทำไมอะ? เรา :น่า...หันหน่อยสิ เค้า: อะ...แค่นี้พอยัง เรา : อืมใช้ได้ๆ เค้า :ให้หันทำไมอะ? เรา : อยากให้ใจมันตรงกันหน่อยอะ
68. เรา : นี่ๆๆ..เราว่าเธอโดนแล้วนะ เค้า : โดนไร เรา : ก้อโดนเรารักแล้วไง
69.เรา : ทำไมวันนี้เรามองเธอเราเจ็บตาจัง เค้า : อ้าว...ทำไมเธอมองเราแล้วเจ็บตาล่ะ เรา : ก็เธอสวยเตะตางัย
70.เรา: เธอๆๆ เธอ: มีไรเหรอ? เรา: เก็บปากกาให้หน่อยดิ เธอ: นี่จ๊ะ..... เรา:แล้วอย่าลืมเก็บหัวใจเราที่ตกอยู่ข้างๆปากกาด้วยนะ
71.ถ้าคุณต้องออกไปนอกโลก คุณจะเอาของสิ่งใดติดตัวคุณไป?~ 1. รองเท้า / ไปวิ่งในหัวใจเธอ 2. กล่อง / ไว้เก็บใจของเธอ 3. เชือก / ไต่ขึ้นมาจากหลุมอวกาศที่เธอขุดไว้ 4. พลาสเตอร์ / แปะแผลใจ 5. หมอน / ฝันถึงเธอ
72.เรา: เฮ่ย !! อย่า!...... เค้า : อย่าอะไร? เรา:อย่าทำให้ฉัน ...รักเทอ
73.เรา: เอ่อ...โทษที เค้า : มีอะไรเหรอ? เรา : ช่วยยกขาหน่อยได้ไหม? เค้า : ทำไม? เรา : ก็เทอเหยียบหัวใจเราอยู่น่ะ
74. เรา : เธอตอนนี้อากาศเป็นไงมั่งอ่ะ? เค้า : ร้อนอ่ะ เรา : งั้นสงสัยเราให้ความอบอุ่นเธอมากเกินไป
75. เรา : เธอเป็นโรคหัวใจรั่วรึป่าว? เค้า : ทำไมหรอ? เรา : ก็เราใช้ความรักเติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็มสัก
http://www.thaireaderclub.com/read.php?id=878

การรอคอย...

การรอคอย...เป็นเรื่องที่ทรมานมาก...โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกันหรือรอคอยสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้น..มันมีมากกว่า 24 ชั่วโมงและเข็มนาฬิกา ก็เดินช้าอีกเป็นเท่าตัว......จากเวลาที่นานอยู่แล้ว...ยิ่งนานกว่าและการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้นก็มีตัวเเปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ......เพราะคนทุกคนมีพื้นฐานของความเหงาและโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเอง พอๆกับความอ่อนไหวเป็นโอกาสดีที่จะใช้ระยะห่างเป็นเครื่องวัดความรู้สึกพิสูจน์ความเข้มเเข็งของความรักวัดการกระทำ...ความเสมอต้น เสมอปลายและความอดทน...ด้วยเงื่อนไขแห่งความลำบากของการเวลาแล้วตัดสินใจว่า...การรอคอย จะคุ้มค่าหรือไม่...การอยู่ห่างกัน......จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็งต่างคนต่างต้องทำให้หัวใจเข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆที่คอยรบกวนและคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทางเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย...ที่วันหนึ่งเราพบว่าคนคนหนึ่ง คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอดและใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝันมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆและคนที่จะฝ่าฟันความบีบคั้นแห่งการรอคอยกลับมาหาเราได้...ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา...เพราะฉะนั้นย่อมหมายถึง ความรู้สึกที่เขามีอยู่ก็คงไม่ธรรมดาและคนๆนั้นก็ย่อมควรแค่ แก่การรอคอย...เวลาที่ชาวประมงเลี้ยงหอยมุกจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานและสามารถรอได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลาที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสายสร้อยได้ย่อมเกิดค่ามหาศาล...ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้หากรู้ว่าเป็นใครสักคน...ที่มีค่าพอให้รอคอย...
http://www.thaireaderclub.com/read.php?id=908

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปรัชญาของความรัก

ต้องการความดูแลเอาใจใส่และความรักสมำเสมอ ไม่อยากถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย ก้เหมือนกับชีวิตของคนเราไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขก็อยากให้มีคนมาดูแลเอาใจใส่และดูแลอยู่ตลอด แต่การที่เราให้ความรักและความรู้สึกดีๆกับใครซักคนนั้น เราควรที่จะให้พอเหมาะพอดีกับคนนั้นๆ เพราะบางคนอาจต้องการมากไป บางคนอาจต้องการน้อยไป ถ้าเราให้ไม่พอดีกันก้จะเกินความทุกข์เข้ามาแทนความสุข เพราะฉะนั้นควรที่จะศึกษาถึงความต้องการที่แท้จริงของคู่เราซะก่อนที่จะให้ อย่างบางคนให้มากเกินความจำเป็นทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาที่เกิดขึ้นอยู่ตามสังคมทั่วไป คือให้เค้าไปหมดเเล้วเกิดความผิดหวัง ทำให้เราอาจคิดต่างๆนานา ไปในทางที่ไม่ดีได้ ดังนั้นเราควรรู้จักกับความพอดี เพราะในชีวิตของเรานั้นไม่ได้มีแค่คนเพียงคนเดียวที่เกิดมาให้เราต้องให้ความรัก รักได้แต่ควรต้องมีสติอยู่ด้วย อย่าไปหลงกับแค่อารมณ์ชั่ววูบ หมั่นคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักของเราที่เราควรจะให้ความรักก่อนนั้นก็คือพ่อ แม่ การรักใครนั้นอย่าได้ทุ่มเทไปหมดทั้งหัวใจเราควรจะเผื่อเอาไว้ส่วนหนึ่ง เผื่อเอาไว้สำหรับความผิดหวังบ้าง เพราะบางครั้งคนที่เราไปจีบเราคิดไปเองว่าต้องเป็นคนที่ใช่ แต่ความเป็นจริงแล้วคนที่คุณคิดว่าใช่อาจจะไม่ใช่ก้ได้ และชีวิตเรายังคงต้องดำเนินอีกต่อไป อย่าไปหลงงมงายกับคนเพียงคนเดียว เพราะวันข้างหน้าเราอาจเจอคนที่ใช่สำหรับเราก้ได้
ถ้าเราสามารถคิดกันได้อย่างงี้ความเสียใจคงไม่มีมากนัก เพราะมันเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเองด้วย ทำให้เราต้องมาเสียใจต่างๆนานา แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้รักเลย การที่เรารักใครซักคน ควรจะเข้าใจว่ามันเป็นบทเรียนที่เราเรียน เราควรจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะทุกข์หริอสุข สิ่งดีๆที่เราได้จาก
ความรักก็เหมือนกับเราได้ทราบถึงประโยชน์ของหนังสือดังนั้นเราควรจะจดจำมัน แต่ถ้าเราได้สิ่งที่ไม่ดีเราก้คิดซะว่ามันเป็นเพียงแค่บทความของปัญหา เมื่อมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเราก้ไม่ควรจำให้นึกซะว่าอาจานไม่ออกสอบก็ให้ลืมมันไปซะ จดจำเฉพาะเรื่องราวดีๆแต่ถ้าเราสามารถเรียนรู้ถึงปัญหาแล้วนำมันมาแก้ไขและประบุกต์ใช้ได้ก็จะทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราสามารถเข้าใจในทุกๆอย่างได้

ความรักกับต้นไม้

ความรักเปรียบเสมือนต้นไม้ เริ่มจากการที่เป็นเมล็ดแล้วค่อยๆขยายแผ่กิ่งก้านสาขาจนเป็นลำต้นที่แข็งแรงต้นไม้ครั้งยังเป็นเมล้ดผู้เลี้ยงต้นไม้นั้นยังเห่อกับการได้พันธ์ไม้ใหม่ขึ้นมา ก็จะรักเอ็นดูทะนุถนอม ไม่ยอมห่างและดูแลเป็นอย่างดี และรอคอยการเติบโต แม้จะต้องเผชิญกับ ลม ฝน แดด ผู้เลี้ยงก็ยังคงให้ดูแลเป็นอย่างดี แต่เมื่อมันโตพอที่จะแข็งแรงได้แล้วนั้นกลับไม่ค่อยใส่ใจเท่าที่ควร ไม่หาหนังสือการเลี้ยงต้นไม้ที่ถูกทางมาอ่าน ทำให้เวลาเลี้ยงบางครั้งต้นอาจจะเติบโตไม่เต็มที่ หรือเวลาเจอกับศัตรูพืชก้ไม่รู้วิธีที่จะกำจัด บางครั้งก้ปล่อยให้มันตายลงไป พอตายเสร็จก็หาต้นไม้ใหม่มาปลูก จะมีซักกี่คนกันที่รักแลดูแลต้นไม้อย่างจริงจัง ไม่มีวันเปลี่ยน นี่แหล่ะคือวัฏจักรวงจรหนึ่งของชีวิตซึ่งก้เปรียบคล้ายกับความรัก ครั้งจีบกันใหม่ๆเราก็จะดุแลห่วงใยทะนุถนอมคนที่เรารักอย่างะไข่ในหิน ไม่อยากให้ใครมาดอมดมเลย เวลาเจอกับปัญหาต่างๆที่รุมเร้าเข้ามาก้ยังช่วยกันคอยสู้กะมัน คอยเป็นกำลังใจให้กัน แต่พอมันโตขึ้นกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญก็เหมือนกับเมื่อเราคบกันไปซักพัก ความดูแลความห่วงใยที่มีให้ก็จะน้อยลง ในที่นี่อาจจะเป็นเพียงเฉพาะบางคนเท่านั้น เวลาต้นไม้เจอกับโรคต่างๆบางครั้งอาจจะเป็นแค่จุดเล็กๆที่เกิดขึ้น แต่คนบางคนก็มักมองข้ามคิดซะว่ามันมาแปบเดียวเดี๋ยวก็หาย แต่ความเป็นจริงแล้วมันอาจจะลุกลามกลายเป็นจุดใหญ่ซึ่งอาจจะทำลายต้นไม้ลงได้ เหมือนกับเมื่อเรามีปัญหาเล้กๆน้อยต่อกัน แต่ไม่ให้ความสนใจกับมัน มันก็จะคอยสะสมไปเรื่อยๆจนกระทั้งเกินที่จะรับได้ก็เป็นสาเหตุนึงที่ความทะเลาะเบาะแว้งและเลิกรากันในที่สุด และเมื่อเลิกรากันก็หาใหม่ ก้เหมือนเมื่อต้นไม้ตายลงเราก็ซื้อต้นไม้มาปลูกใหม่ ถ้าคนซื้อต้นใหม่แล้ว เก็บเอาสาเหตุที่ทำให้ต้นไม้เก่ามาแก้ไขและปรับปรุงกับต้นไม้ใหม่มันอาจจะทำให้ต้นไม่เจริญงอกงามเหนือกว่าต้นเดิม ซึ่งก็คล้ายกัยความรักของคน ที่เราควรจะเอาจุดบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นแต่ครั้งก่อนมาเป็นบทเรียนสอนใจ
ร่าง