วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปรัชญาของความรัก

ต้องการความดูแลเอาใจใส่และความรักสมำเสมอ ไม่อยากถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย ก้เหมือนกับชีวิตของคนเราไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขก็อยากให้มีคนมาดูแลเอาใจใส่และดูแลอยู่ตลอด แต่การที่เราให้ความรักและความรู้สึกดีๆกับใครซักคนนั้น เราควรที่จะให้พอเหมาะพอดีกับคนนั้นๆ เพราะบางคนอาจต้องการมากไป บางคนอาจต้องการน้อยไป ถ้าเราให้ไม่พอดีกันก้จะเกินความทุกข์เข้ามาแทนความสุข เพราะฉะนั้นควรที่จะศึกษาถึงความต้องการที่แท้จริงของคู่เราซะก่อนที่จะให้ อย่างบางคนให้มากเกินความจำเป็นทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาที่เกิดขึ้นอยู่ตามสังคมทั่วไป คือให้เค้าไปหมดเเล้วเกิดความผิดหวัง ทำให้เราอาจคิดต่างๆนานา ไปในทางที่ไม่ดีได้ ดังนั้นเราควรรู้จักกับความพอดี เพราะในชีวิตของเรานั้นไม่ได้มีแค่คนเพียงคนเดียวที่เกิดมาให้เราต้องให้ความรัก รักได้แต่ควรต้องมีสติอยู่ด้วย อย่าไปหลงกับแค่อารมณ์ชั่ววูบ หมั่นคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักของเราที่เราควรจะให้ความรักก่อนนั้นก็คือพ่อ แม่ การรักใครนั้นอย่าได้ทุ่มเทไปหมดทั้งหัวใจเราควรจะเผื่อเอาไว้ส่วนหนึ่ง เผื่อเอาไว้สำหรับความผิดหวังบ้าง เพราะบางครั้งคนที่เราไปจีบเราคิดไปเองว่าต้องเป็นคนที่ใช่ แต่ความเป็นจริงแล้วคนที่คุณคิดว่าใช่อาจจะไม่ใช่ก้ได้ และชีวิตเรายังคงต้องดำเนินอีกต่อไป อย่าไปหลงงมงายกับคนเพียงคนเดียว เพราะวันข้างหน้าเราอาจเจอคนที่ใช่สำหรับเราก้ได้
ถ้าเราสามารถคิดกันได้อย่างงี้ความเสียใจคงไม่มีมากนัก เพราะมันเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเองด้วย ทำให้เราต้องมาเสียใจต่างๆนานา แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้รักเลย การที่เรารักใครซักคน ควรจะเข้าใจว่ามันเป็นบทเรียนที่เราเรียน เราควรจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะทุกข์หริอสุข สิ่งดีๆที่เราได้จาก
ความรักก็เหมือนกับเราได้ทราบถึงประโยชน์ของหนังสือดังนั้นเราควรจะจดจำมัน แต่ถ้าเราได้สิ่งที่ไม่ดีเราก้คิดซะว่ามันเป็นเพียงแค่บทความของปัญหา เมื่อมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเราก้ไม่ควรจำให้นึกซะว่าอาจานไม่ออกสอบก็ให้ลืมมันไปซะ จดจำเฉพาะเรื่องราวดีๆแต่ถ้าเราสามารถเรียนรู้ถึงปัญหาแล้วนำมันมาแก้ไขและประบุกต์ใช้ได้ก็จะทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราสามารถเข้าใจในทุกๆอย่างได้

ความรักกับต้นไม้

ความรักเปรียบเสมือนต้นไม้ เริ่มจากการที่เป็นเมล็ดแล้วค่อยๆขยายแผ่กิ่งก้านสาขาจนเป็นลำต้นที่แข็งแรงต้นไม้ครั้งยังเป็นเมล้ดผู้เลี้ยงต้นไม้นั้นยังเห่อกับการได้พันธ์ไม้ใหม่ขึ้นมา ก็จะรักเอ็นดูทะนุถนอม ไม่ยอมห่างและดูแลเป็นอย่างดี และรอคอยการเติบโต แม้จะต้องเผชิญกับ ลม ฝน แดด ผู้เลี้ยงก็ยังคงให้ดูแลเป็นอย่างดี แต่เมื่อมันโตพอที่จะแข็งแรงได้แล้วนั้นกลับไม่ค่อยใส่ใจเท่าที่ควร ไม่หาหนังสือการเลี้ยงต้นไม้ที่ถูกทางมาอ่าน ทำให้เวลาเลี้ยงบางครั้งต้นอาจจะเติบโตไม่เต็มที่ หรือเวลาเจอกับศัตรูพืชก้ไม่รู้วิธีที่จะกำจัด บางครั้งก้ปล่อยให้มันตายลงไป พอตายเสร็จก็หาต้นไม้ใหม่มาปลูก จะมีซักกี่คนกันที่รักแลดูแลต้นไม้อย่างจริงจัง ไม่มีวันเปลี่ยน นี่แหล่ะคือวัฏจักรวงจรหนึ่งของชีวิตซึ่งก้เปรียบคล้ายกับความรัก ครั้งจีบกันใหม่ๆเราก็จะดุแลห่วงใยทะนุถนอมคนที่เรารักอย่างะไข่ในหิน ไม่อยากให้ใครมาดอมดมเลย เวลาเจอกับปัญหาต่างๆที่รุมเร้าเข้ามาก้ยังช่วยกันคอยสู้กะมัน คอยเป็นกำลังใจให้กัน แต่พอมันโตขึ้นกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญก็เหมือนกับเมื่อเราคบกันไปซักพัก ความดูแลความห่วงใยที่มีให้ก็จะน้อยลง ในที่นี่อาจจะเป็นเพียงเฉพาะบางคนเท่านั้น เวลาต้นไม้เจอกับโรคต่างๆบางครั้งอาจจะเป็นแค่จุดเล็กๆที่เกิดขึ้น แต่คนบางคนก็มักมองข้ามคิดซะว่ามันมาแปบเดียวเดี๋ยวก็หาย แต่ความเป็นจริงแล้วมันอาจจะลุกลามกลายเป็นจุดใหญ่ซึ่งอาจจะทำลายต้นไม้ลงได้ เหมือนกับเมื่อเรามีปัญหาเล้กๆน้อยต่อกัน แต่ไม่ให้ความสนใจกับมัน มันก็จะคอยสะสมไปเรื่อยๆจนกระทั้งเกินที่จะรับได้ก็เป็นสาเหตุนึงที่ความทะเลาะเบาะแว้งและเลิกรากันในที่สุด และเมื่อเลิกรากันก็หาใหม่ ก้เหมือนเมื่อต้นไม้ตายลงเราก็ซื้อต้นไม้มาปลูกใหม่ ถ้าคนซื้อต้นใหม่แล้ว เก็บเอาสาเหตุที่ทำให้ต้นไม้เก่ามาแก้ไขและปรับปรุงกับต้นไม้ใหม่มันอาจจะทำให้ต้นไม่เจริญงอกงามเหนือกว่าต้นเดิม ซึ่งก็คล้ายกัยความรักของคน ที่เราควรจะเอาจุดบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นแต่ครั้งก่อนมาเป็นบทเรียนสอนใจ
ร่าง